ยาว 2 นาที

รีวิว เครื่องฟอกอากาศ Airgle AG300 เครื่องฟอกอากาศเกรดการแพทย์สไตล์มินิมอลที่เราเลิฟมาก

สวัสดีค่าาาทุกคน วันนี้ทางเรามีเครื่องฟอกอากาศดีๆ ที่อยากมาแนะนำกันค่ะ เพราะทุกวันนี้นี่พูดกันตรงๆก็คือเราต้องเผชิญกับมลภาวะต่างๆไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง ฝุ่น PM2.5 เชื้อโรคต่างๆอีก ยิ่งเราอยู่คอนโดติดถนนสุขุมวิท เลี่ยงไม่ได้เลยที่จะมีควันรถ หรือ กลิ่น เล็ดลอดเข้ามาในห้อง บวกกับเราก็แพ้ฝุ่นด้วย เลี้ยงแมวด้วย ทั้งขนแมวทั้งกลิ่นจากแมวไปอีก

เครื่องฟอกอากาศจึงเป็นสิ่งจำเป็นมากๆที่ทุกบ้านควรต้องมีเลยค่ะ เพื่อที่เราจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ได้เต็มปอด ส่งผลไปถึงคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีแบบยั่งยืนค่ะ

เราก็เลยจะมารีวิว เครื่องฟอกอากาศดีๆที่เราลองใช้แล้วชอบมาก มาแนะนำทุกคนค่ะ ซึ่งก่อนจะได้มาลองบอกเลยว่าเราเล็งมาพักนึงเลย เพราะเป็นเครื่องฟอกอากาศระดับไฮเอ็นด์ เซเลบริตี้ คนดังระดับโลกใช้ บวกกับเป็นแบรนด์ที่ใช้ในโรงพยาบาลชั้นนำทั่วโลก, Hermes, Mercedes-Benz, Pfizer ไว้วางใจใช้ ทำให้เรามั่นใจที่จะลองใช้มากขึ้นไปอีก

บอกเลยว่าใช้แล้วไม่ผิดหวัง ดีงาม ใครที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี เครื่องฟอกอากาศกำจัดเชื้อโรค เครื่องฟอกอากาศเสียงเบา และดีไซน์ตัวเครื่องเรียบๆขนาดเล็กกระทัด ถือไปวางตรงมุมไหนของบ้านก็ได้ มาทางนี้เลยค่ะ ถ้าคุณรู้จักเค้าคุณต้องชอบเค้าเหมือนที่เราชอบมากแน่นอน

นี่คือ เครื่องฟอกอากาศ Airgle รุ่น AG300

ภายในกล่องประกอบไปด้วย เครื่องฟอกอากาศ สายไฟสำหรับเชื่อมต่อกับตัวเครื่อง รีโมทคอนโทรลอินฟราเรด และคู่มือการใช้งานค่ะ

Airgle เป็นเครื่องฟอกอากาศเกรดการแพทย์ คุณภาพสูง ที่ดีไซน์แตกต่างจากเครื่องฟอกอากาศเกรดการแพทย์ที่เราเคยเจออย่างสิ้นเชิง ปกติที่เราเคยเห็น ดีไซน์ไม่ถูกใจเราเลย เครื่องใหญ่เอะอะเทอะทะมาก เสียงดัง ดูเหมาะกับใช้ใน รพ.มากกว่าบ้านและคอนโด เราก็เลยไม่คิดที่จะซื้อมาใช้เลย

แต่ Airgle รุ่น AG300 เครื่องนี้ เป็นเครื่องฟอกอากาศเกรดการแพทย์ที่มีดีไซน์เรียบๆทันสมัย ดูสวยคลีน ขนาดเครื่องกระทัดรัด กำลังดีเลย น้ำหนักเบา ทำให้ยกไปวางในจุดที่เราต้องการได้ง่ายๆ

และด้วยความเรียบๆสีขาวดำของเค้า จึงเหมาะกับบ้านหลากหลายสไตล์ ทุกเพศทุกวัยค่ะ ยิ่งใครชอบความมินิมอล คลีนๆ เครื่องนี้นี่คือได้เลย เพราะรูปทรงเหมาะกับบ้านสไตล์นี้ที่กำลังนิยมเลย

แต่เค้าก็ไม่ได้มีดีแค่รูปทรงสวยงามทันสมัยเท่านั้นนะคะ คุณสมบัติของเครื่องนี้นี่ต้องบอกเลยว่าดีงามมากๆ

เครื่องฟอกอากาศ Airgle ทุกรุ่น ได้รับการตรวจสอบและรับรองจาก US FDA และนานาชาติ ค่ะ จึงเป็นเครื่องฟอกอากาศระดับเครื่องมือแพทย์

Airgle รุ่น AG300 เป็นแบรนด์เดียวในไทยที่ใช้แผ่นกรอง cHEPA เกรด H14 ซึ่งเป็นเกรดที่สูงที่สุด ทำให้กรองได้ละเอียดที่สุด, แผ่นกรองคาร์บอน จะช่วยดูดซับกลิ่นสารเคมี และ Titanium Pro UV ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อการกำจัดการแพร่ระบาดทางอากาศที่ดีที่สุด เป็นเทคโนโลยีย่อยสลาย เชื้อโรคด้วย UVC จดสิทธิบัตรจาก USA เฉพาะ Airgle เท่านั้น สามารถกำจัดได้ทั้งฝุ่นละออง, ไวรัส, แบคทีเรีย, สารก่อภูมิแพ้, สารระเหยอันตรายตัวการของมะเร็งโพรงจมูก

และ AG300 ผ่านการทดสอบโดยห้องปฏิบัติการความปลอดภัยทางชีวภาพ ระดับ 3 ในสหรัฐอเมริกา ว่าสามารถกำจัดไวรัส SARS-Cov-2 ซึ่งเป็นไวรัสที่นำไปสู่ Covidในอากาศได้ถึง 99.998%

กรองฝุ่น PM2.5 กรองได้เล็กถึง 0.003ไมครอน ประสิทธิภาพสูง 99.999%

มีถ่านกัมมันต์ชนิดพรีเมี่ยมน้ำหนัก 0.5 ปอนด์ ที่สามารถดักจับกลิ่นไม่พึงประสงค์, ควัน, สารระเหยได้ดีเยี่ยม ควบคู่กับแผ่นกรอง cHEPA เกรดสูงทีสุดขนาด 12 ตารางฟุต ที่ช่วยดักจับฝุ่นละออง, ไวรัส, แบคทีเรีย, สารก่อภูมิแพ้, รังแคสัตว์, เกสรดอกไม้ และมลพิษอื่นๆภายในบ้านของคุณ

ฟังค์ชั่นการใช้งานก็แสนจะง่ายด้วย จะสั่งงานผ่านตัวเครื่องหรือจะสั่งงานผ่านรีโมทอินฟราเรดก็ได้เช่นกัน

ก่อนเริ่มใช้งาน ก็ต้องเสียบสายไฟสำหรับเชื่อมต่อ และกดเปิดปิด ควบคุมการทำงานต่างๆ ได้จากแผงควบคุมด้านบนตัวเครื่องได้เลยค่ะ

จอแสดงผล LED จะแสดงผลลัพธ์คุณภาพอากาศ (Air Quality) ตรวจวัดได้จากเซ็นเซอร์ที่ติดอยู่ด้านข้างของตัวเครื่อง

อายุการใช้งานแผ่นกรอง (Filter Life) มี 6 ระดับ หากแถบฟิลเตอร์ลดลงเหลือระดับ 1 และกระพริบ ก็ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์แล้วค่ะ

ระดับความแรงลม (Speed) มี 5 ระดับค่ะ ระดับที่ 5 คือการทำงานแบบ Turbo

และสถานะการทำงานของ Titanium Pro UV (รูปหลอดไฟ จะแสดงเมื่อมีการเปิดใช้งานแท่ง Titanium Pro UV)

แผ่นกรองมีอายุการใช้งานโดยเฉลี่ยประมาณ 10-12 เดือน. เมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแผ่นกรอง แถบแสดงสถานะจะกระพริบและส่งเสียงเตือน

หมายเหตุ: อายุการใช้งานของแผ่นกรองเป็นค่าโดยเฉลี่ยเท่านั้น แผ่นกรองอาจมีอายุที่นานกว่า หรือน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับมลพิษในพื้นที่นั้นและระดับความแรงลม

มาดูการสั่งงานจากแผงควบคุมบนตัวเครื่องกันค่ะ เค้ามีทั้งหมด 4 ปุ่ม

1.Mode เราสามารถปรับการใช้งานได้ 3 รูปแบบค่ะ

Manual Mode เราสามารถปรับระดับความแรงลม (Speed) ได้เองค่ะ
Auto Mode เครื่องจะทำงานแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะปรับระดับความแรงลม(Speed) อัตโนมัติตามคุณภาพอากาศที่เครื่องจับค่าได้ในขณะนั้น
Sleep Mode สำหรับใช้งานตอนกลางคืน หน้าจอ LCD จะดับลง และปรับระดับ ความแรงลม (Speed) เป็นระดับ 1

และเมื่อกดปุ่ม Mode ค้างไว้ 5 วินาที จะเป็นการเปิดการใช้งาน Titanium Pro UV ค่ะ ไอคอนหลอดไฟจะสว่างขึ้น

หากต้องการปิด Titanium Pro UV ให้กดปุ่ม Mode ค้างไว้ 5 วินาที

2.Reset ใช้เพื่อรีเซ็ตสถานะอายุการใช้งานแผ่นกรองหลังจากเปลี่ยนแผ่นกรองแล้วค่ะ

3.Speed หากต้องการเปลี่ยรระดับความแรงลม ให้กดปุ่ม Speed 1 ครั้ง มีทั้งหมด 5 ระดับ

ระดับ 1-4 คือระดับปกติ

กรณี ต้องการเปิด ระดับ 5 โหมดเทอร์โบ (Turbo)ให้กดปุ่ม Speed ค้างไว้ 5 วินาที

4.Power ใช้สำหรับเปิด-ปิด เครื่องฟอกอากาศ

*IR เซ็นเซอร์ IR ใช้เพื่อรับสัญญาณจากรีโมทคอนโทรล

ซึ่งเราสามารถควบคุมโหมดการทำงานของเครื่องฟอกอากาศจากระยะไกล ผ่านรีโมทอินฟราเรดได้เลยค่ะ ทั้งเปิดปิดเครื่อง ปรับระดับความแรงลม เปลี่ยนโหมดต่างๆ สะดวกมากๆ

รีโมทอินฟราเรด ขนาดกระทัดรัดจับถนัดมือ ดีไซน์สวยงามอีกเช่นกันค่ะ สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ค่ะ

นอกจากนี้ ก็ยังสามารถสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่นในมือถือได้ด้วยค่ะ ใช้ได้ทั้งระบบ Android และ iOs

เพียงดาวน์โหลด และลงทะเบียนการใช้งานผ่าน แอพพลิเคชั่น Airgle

สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์กับเครือข่าย WIFI ในความถี่เครือข่ายแบบเดี่ยว 2.4GHz แอพพลิเคชั่นจะไม่รองรับความถี่แบบ 5GHz และแบบความถี่คู่ 2.4/5GHz

ใส่อีเมลล์หรือเบอร์โทรศัพท์เพื่อรับรหัสยืนยันค่ะ และนำรหัสมาลงทะเบียนค่ะ

จากนั้นกด Add Device เลือกรุ่นของเครื่องฟอกอากาศ

เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จ จะเห็นสัญลักษณ์ไวไฟขึ้นที่ด้านขวาหน้าจอค่ะ

นี่คือสิ่งที่จะโชว์บนแอพพลิเคชั่นค่ะ จะบอกถึงคุณภาพอากาศ รวมไปถึงระดับขีดการใช้งานแผ่นฟิลเตอร์และ Titanium Pro UV

เราสามารถสั่งงานผ่านแอพได้เลยง่ายๆค่ะ และยังเปิดปิด Titanium Pro UV ได้ด้วย

สามารถปรับระดับความแรงลม หรือ เปลี่ยนโหมดการใช้งานได้

การใช้งานผ่านแอพลิเคชั่นก็จะทำให้เราสะดวกมากขึ้นค่ะ อยู่ตรงไหนของบ้าน ก็สามารถกดสั่งงานได้เลยทันที

ความรู้สึกหลังจากที่ได้ลองใช้เครื่องฟอกอากาศ Airgle รุ่น AG300 บอกเลยว่าประทับใจสุดๆ อย่างแรกเลย เรารู้สึกว่าเค้าใช้ง่ายมากๆ ไม่มีปุ่มอะไรซับซ้อน สั่งงานจากรีโมทคอนโทรลอินฟราเรด จากระยะไกลได้ถึง 10 เมตร เรารู้สึกว่าเค้ากรองอากาศได้สะอาด บริสุทธิ์ และหายใจได้เต็มปอดมากขึ้น เครื่องถูกออกแบบมาปิดสนิท 100% ทำให้มั่นใจว่าทุกมลพิษทางอากาศที่อยู่ภายในห้องเรา จะไม่เล็ดลอดออกจากตัวเครื่องโดยไม่ผ่านการกรอง นี่ถ้าเราไม่ใช้เครื่องฟอกอากาศ เราต้องทานยาแก้แพ้แทบจะวันเว้นวันเลย เพราะแพ้ฝุ่นและเลี้ยงแมว 2 ตัวด้วยค่ะ แต่หลังจากใช้เครื่องนี้ เราทานยาแก้แพ้น้อยลงค่ะ และนอกจากนี้ เรารู็สึกว่าเค้ากรองกลิ่นได้ดีมากด้วยค่ะ เพราะเราชอบทาเล็บเอง ทำอาหารเอง มีสัตว์เลี้ยงทำให้มีปัญหาเรื่องกลิ่น เปิดเครื่องฟอกอากาศไว้ ห้องแทบไม่มีกลิ่นเลยค่ะ ดีงามมากๆ ประทับใจสุดๆ เสียงก็เงียบด้วยค่ะ เพราะมีการวัดระดับความดังเสียงเดซิเบลในระดับที่เงียบจนน่าทึ่งมาก ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงเครื่องดังเลย ตัวเครื่องน้ำหนักเบา ทำให้ยกไปวางตรงไหนของบ้านก็สะดวกมากๆค่ะ

ในส่วนของการเปลี่ยนแผ่นกรองนั้น ก็ง่ายมากๆค่ะ เปลี่ยนทีเดียวทั้งเซตเลย 3 ชิ้น สะดวกมากๆ เราเป็นผู้หญิงก็เปลี่ยนได้เองชิลๆเลยค่ะ เพียงแค่หมุนตัวล็อคที่ฝาด้านหลังเครื่องทั้ง 2 จุด แล้วดึงฝาปิดด้านหลังออก

ดึงริบบิ้นที่ติดกับฟิลเตอร์ออกมา

และกดตัวล็อคแท่งTitanium Pro UV ออกมา ใส่เซ็ตใหม่เข้าไป ปิดฝาล็อค กดปุ่ม Reset ก็คือเสร็จเรียบร้อยค่ะ

การดูแลรักษาเครื่องก็ไม่ยากค่ะ ระวังอย่าให้น้ำเข้าไปในตัวเครื่อง หากจะทำความสะอาด แค่ใช้ผ้าสะอาดเช็ดรอบตัวเครื่อง หรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดออกได้ค่ะ

และเครื่องนี้ก็สบายใจหายห่วง เพราะรับประกันนานถึง 2 ปี ค่ะ ใบรับประกันก็เป็น qr code อยู่ด้านข้างตัวเครื่องนั่นเอง ไม่ต้องมีกระดาษให้รกบ้าน ทันสมัยเหมาะกับยุคนี้สุดๆ